Man on Fire

บทวิจารณ์ ภาพยนตร์

    ขบวนการลักพาตัวที่จู่โจมไปทั่วเม็กซิโก ได้สร้างกระแสแห่งความหวาดกลัวให้กับบรรดาพลเมืองผู้ร่ำรวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกพ่อแม่ ในช่วงเวลาเพียงหกวัน เกิดการลักพาตัวถึง 24 ราย ทำให้หลาย ๆ ครอบครัวต้องจ้างผู้คุ้มกันให้กับลูก ๆ ของพวกเขา 
    จอห์น ครีซี่ (เดนเซล วอชิงตัน) อดีตเจ้าหน้าที่ มือสังหารซีไอเอ ผู้หมดอาลัยตายอยากให้กับชีวิต ได้ติดต่อกับ เรย์เบิร์น (คริสโตเฟอร์ วอลเคน) เพื่อนของครีซี่ เพื่อให้ช่วยหางาน  เรย์เบิร์น ได้พาเขามายังเม็กซิโกซิตี้เพื่อทำหน้าที่คุ้มกันให้กับ ลูปิต้า รามอส (ดาโกต้า แฟนนิ่ง) ลูกสาววัยเก้าขวบของนักธุรกิจ แซมมวล รามอส (มาร์ค แอนโทนี่) และ ลิซ่า (ราดาห์ มิตเชลล์) ภรรยาของเขา ครีซี่ไม่ได้สนใจกับการเป็นผู้คุ้มกัน โดยเฉพาะให้เด็ก แต่เห็นว่าไม่มีงานอย่างอื่นที่ดีไปกว่านั้น จึงตกลงรับหน้าที่นั้น
    ครีซี่ เบื่อกับการดูแล ลูปิต้า ที่คอยตั้งคำถามน่ารำคาญเกี่ยวกับตัวเขาและชีวิตส่วนตัว แต่ คริซี่ ก็ค่อยๆยอมเปิดใจกับ ลูปิต้า และคอยดูแลในทุกๆเรื่องดั่งลูกของตนแต่แล้ว เป้าหมายในการมีชีวิตของ คริซี่ ก็ต้องพังทลาย เมื่อลูปิต้าถูกลักพาตัวไป โดยที่ คริซี่ เองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุลักพาตัวนั้น เมื่อเขาฟื้นตัวและได้รับรู้เรื่องราว เขาจึงออกตามล่าทุกคนที่มีเอี่ยวกับเหตุการณ์นี้ โดยไม่สนว่าจะเป็นใครหน้าไหนก็ตาม 
    Man on Fire เป็นหนังแอคชั่นดราม่า ที่หยิกยกเหตุการณ์เกี่ยวกับการก่ออาชญากรรม ที่สามารถสื่อสะท้อนถึงมุมมองและปัญหาสังคมที่มีอยู่จริง ไม่ว่าจะเรื่องคอร์รัปชั่น หรือเรื่องการลักพาตัวเรียกค่าไถ่ ตัวหนังดำเนินเรื่องได้ดี ไม่มีจุดอืด ค่อยๆสืบไปเรื่อยๆตามสไตล์พวกหนังตามล่าทั่วไป ยกเว้นแต่ตัว คริซี่ พระเอกของเรื่องที่ดูมาดนิ่ง แต่ที่จริงนั้นกลับดิบ เถื่อน ต่างจากมาดที่วางไว้ บอกตามตรงว่าแอบสงสารผู้ร้ายที่โดนพระเอกของเราเล่นงานจริงๆ
    พล็อตเรื่องดีครับ เพราะแอบมีจุดเหนือความคลาดหมายอยู่เล็กน้อย อีกทั้งสไตล์การสอบปากคำของพระเอกก็น่าจะถูกใจสายโหดมิใช่น้อย โดยรวมคือดีครับ สนุกน่าติดตาม แถมมีจุดจบที่ดี ซาบซึ้งกินใจ